1. วางแผนการดำเนินคดี ออกหมายเรียกพยาน เจรจายุติข้อพิพาทในชั้นศาล และดำเนินกระบวนการพิจารณาในศาลจนกระทั่งศาลมีคำพิพากษา คัดคำพิพากษาเพื่อปิดเรื่อง และดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษา
2. ดำเนินการยุติข้อพิพาทโดยรับเรื่องจากแผนกเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนระหว่างบริษัทประกันภัย แผนกติดตามรถหาย ฝ่ายปฏิบัติการสินไหมทดแทนกลาง, ฝ่ายกฎหมาย, ฝ่ายติดตามหนี้สิน และศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน
3. ดำเนินคดีในกรณีที่ไม่สามารถยุติข้อพิพาท และเรียกร้องค่าเสียหายคืนจากคู่กรณีหรือผู้เอาประกันภัย โดยเตรียมคำฟ้อง/ คำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) หรือสมาคมประกันวินาศภัย
4. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และจัดเตรียมเอกสารเพื่อใช้เรียกร้องค่าเสียหายคืนจากคู่กรณีหรือผู้เอาประกันภัย พร้อมทั้งออกหนังสือทวงถามเพื่อเรียกร้องยุติข้อพิพาทเบื้องต้น ตลอดจนออกหนังสือทวงถามถึงจำเลยเพื่อการชำระหนี้ และรับชำระหนี้ตามคำพิพากษา หรือสัญญาประนีประนอมยอมความ
5. ดำเนินการด้านคดีแพ่ง โดยยื่นคำฟ้อง รับทราบคำสั่งศาล ส่งหมายเรียก/ สำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลย และติดตามผล
6. ดำเนินการด้านอนุญาโตตุลาการ โดยการเจรจาต่อรองประนีประนอมกับคู่กรณีหรือดำเนินการตั้งอนุญาโตตุลาการ เพื่อทำการไกล่เกลี่ยสืบพยานจนกว่าจะมีคำชี้ขาด และติดต่อคู่กรณีเพื่อให้ปฏิบัติตามคำชี้ขาด พร้อมทั้งรับชำระค่าสินไหมทดแทน หากคู่กรณีไม่ปฏิบัติตามจะเสนอคำร้องต่อศาลเพื่อให้มีผลบังคับ ตลอดจนดำเนินการข้อพิพาททางอนุญาโตตุลาการของกระทรวงพาณิชย์
7. ต่อสู้คดีในกรณีผู้เอาประกันภัยหรือบริษัทถูกฟ้องเป็นจำเลย โดยเจรจาต่อรองหาทางยุติข้อพิพาท หรือปฏิเสธความรับผิดชอบกับทางผู้เสนอ หากไม่สามารถยุติก็จะดำเนินการตั้งอนุญาโตตุลาการเพื่อมีคำชี้ขาด พร้อมทั้งดูแลในการรับ – จ่ายค่าสินไหมทดแทน
8. ชี้แจงข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กรณีที่บริษัทถูกร้องเรียน
9. ให้คำปรึกษาแนะนำ และเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการด้านกฎหมายให้แก่พนักงาน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
10. งานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย